กลยุทธ์การทุ่มตลาดเชิงรุกของจีนคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

กลยุทธ์การทุ่มตลาดของจีนเป็นอันตรายต่อภาคส่วนเทคโนโลยี โดยมีชิปรุ่นเก่าและแบตเตอรี่ EV เป็นเป้าหมายต่อไป คำเตือนจากอดีตเจ้าหน้าที่ DoC

กลยุทธ์การทุ่มตลาดเชิงรุกของจีนคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

รัฐบาลของจีนได้ใช้กลยุทธ์ทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากต่าง ประเทศและยึดอำนาจมาโดยตลอด ตามที่อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ (DoC) นาซัก นิกาคธาร (Nazak Nikakhtar) ได้กล่าวไว้ โดยการคาดการณ์ของนิกาคธารชี้ไปที่ชิปรุ่นเก่าและแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นเป้าหมายลำดับต่อไป

การดำรงตำแหน่งของนิกาคธาร ในสำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (BIS) ของ DoC ตรงกับช่วงที่จีนเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2001 เธอสังเกตเห็นการปฏิบัติการในระบบของจีน ที่กัดกร่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ     แม้ว่า กฎควบคุมการส่งออกในเดือนตุลาคม 2022 ของสหรัฐฯ จะมุ่งเป้าไปที่การขัดขวางความก้าวหน้าของจีนในด้านโหนดเซมิคอนดักเตอร์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันไม่มีประสิทธิภาพ

SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corp.) กำลังขยายขีดความสามารถอย่างเต็มกำลัง เพื่อทำให้ตลาดเต็มไปด้วยชิปราคาถูก ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายใหญ่เช่น TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co.), Samsung และ SK Hynix จนเกิดเป็นการเรียกร้องให้มีจุดยืนที่เข้มงวดมากขึ้นภายในฝ่ายบริหาร เนื่องจากช่องโหว่ทางกฎหมายที่มีอยู่ แม้ว่า ทางฝั่งอุตสาหกรรมจะกดดันให้รักษาสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ตาม

การเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ ในปี 2024 ที่กำลังมาถึงนี้ คาดว่าจะได้รับการต่อต้านอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจีนใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดภายในประเทศ เพื่อโน้มน้าวบริษัทข้ามชาติให้ล็อบบี้รัฐบาลสหรัฐฯ

นอกเหนือจากชิปรุ่นเก่าแล้ว จีนยังจับตาดูแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยก นิกาคธาคได้กล่าวไว้  ซึ่งปัจจุบันเธอทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนของ Wiley Rein สำนักงานกฎหมายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงของชาติ และคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS)

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ มีกรณีการทุ่มตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของจีนเพียงไม่กี่กรณีเท่านั้น แม้ว่าจีนจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ก็ตาม อาจเพราะบริษัทนอกประเทศจีนกลัวว่าจะถูกตอบโต้

สหภาพยุโรป (E.U.) และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในปัจจุบันมีความกังวลเกี่ยวกับการกระทำของจีน สหภาพยุโรปเริ่มสอบสวนเรื่องการต่อต้านเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในเดือนกันยายน โดยเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เน้นย้ำประเด็นนี้ว่า เงินอุดหนุนจากรัฐของจีนบิดเบือนตลาดโลกอย่างไร

แคเธอรีน ไท (Katherine Tai)  ผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกาสนับสนุนจุดยืนของสหภาพยุโรป โดยตั้งข้อสังเกตว่า การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนความไม่สมดุลที่พบในอุตสาหกรรมอื่นๆ เธอเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ เศรษฐกิจแบบประชาธิปไตยต้องอิงตลาดเป็นหลัก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา

กลยุทธ์บีบบังคับของจีนเน้นย้ำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการให้ค่าความสำคัญพื้นฐานของ WTO และความเป็นจริงในปัจจุบัน ตามข้อมูลที่ไทได้กล่าวไว้

การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมปี 2022 มีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนในโหนด 14 นาโนเมตร อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตชิปในจีนเปลี่ยนการโฟกัสไปที่ การผลิตชิปที่มีความก้าวหน้าน้อยกว่า จีน่า ไรมอนโด (Gina Raimondo) รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าว

ผู้ผลิตชิปที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีนวางแผนการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำสินค้าให้ล้นตลาดภายใน ประเทศด้วยชิปรุ่นเก่า ก่อนที่จะกำหนดเป้าหมายไปที่คู่แข่งระดับโลก ตามข้อมูลของ ดีเรก ซิสเซอร์ (Derek Scissors) นักวิชาการของ AEI

รายงานของสมาคมอุตสาหกรรมชิป SEMI คาดการณ์ว่า จีนจะยังคงจัดลำดับความสำคัญในการการลงทุนของรัฐบาลไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มส่วนแบ่งทั่วโลกจาก 22% ในปี 2022 เป็น 25% ในปี 2026 ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งของอเมริกาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 9% ภายในปี 2026.

การที่ Huawei ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ในจีนเช่น SMIC อยู่ในรายชื่อนิติบุคคลของสหรัฐฯ ถือเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ที่ล้มเหลว ตามที่นาซัก นิกาคธารกล่าว เธอเน้นย้ำถึงช่องโหว่ของการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ฉบับล่าสุดที่ประกาศในเดือนตุลาคมปี 2022 และหยิบยกข้อกังวลเกี่ยวกับการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่

นาซัก นิกาคธาร ละเว้นการเสนอชื่อบริษัทของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้อง แต่เน้นไปที่การล่อลวงผลกำไร และการรับเทคโนโลยีของจีนเข้ามาจนเกิดการสูญเสียทางด้านผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เธอเตือนว่า บริษัทชิปในสหรัฐฯ อาจเผชิญกับปัญหา เมื่อจีนประสบความสำเร็จจนพึ่งพาตนเองได้ในอุตสาหกรรมชิป

นาซัก นิกาคธารเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มภายในของ DoC มีกลุ่มคนบางกลุ่มสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกับจีน โดยคาดหวังการปฏิรูป อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้ขัดแย้งกับการเสื่อมถอยของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ อันเกิดจากการกระทำของจีน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข่าวสาร
January 26, 2024

กลยุทธ์การทุ่มตลาดเชิงรุกของจีนคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

กลยุทธ์การทุ่มตลาดของจีนเป็นอันตรายต่อภาคส่วนเทคโนโลยี โดยมีชิปรุ่นเก่าและแบตเตอรี่ EV เป็นเป้าหมายต่อไป คำเตือนจากอดีตเจ้าหน้าที่ DoC

นักเขียนบทความ
by 
นักเขียนบทความ
กลยุทธ์การทุ่มตลาดเชิงรุกของจีนคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

กลยุทธ์การทุ่มตลาดเชิงรุกของจีนคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

กลยุทธ์การทุ่มตลาดของจีนเป็นอันตรายต่อภาคส่วนเทคโนโลยี โดยมีชิปรุ่นเก่าและแบตเตอรี่ EV เป็นเป้าหมายต่อไป คำเตือนจากอดีตเจ้าหน้าที่ DoC

รัฐบาลของจีนได้ใช้กลยุทธ์ทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากต่าง ประเทศและยึดอำนาจมาโดยตลอด ตามที่อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ (DoC) นาซัก นิกาคธาร (Nazak Nikakhtar) ได้กล่าวไว้ โดยการคาดการณ์ของนิกาคธารชี้ไปที่ชิปรุ่นเก่าและแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นเป้าหมายลำดับต่อไป

การดำรงตำแหน่งของนิกาคธาร ในสำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (BIS) ของ DoC ตรงกับช่วงที่จีนเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2001 เธอสังเกตเห็นการปฏิบัติการในระบบของจีน ที่กัดกร่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ     แม้ว่า กฎควบคุมการส่งออกในเดือนตุลาคม 2022 ของสหรัฐฯ จะมุ่งเป้าไปที่การขัดขวางความก้าวหน้าของจีนในด้านโหนดเซมิคอนดักเตอร์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันไม่มีประสิทธิภาพ

SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corp.) กำลังขยายขีดความสามารถอย่างเต็มกำลัง เพื่อทำให้ตลาดเต็มไปด้วยชิปราคาถูก ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายใหญ่เช่น TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co.), Samsung และ SK Hynix จนเกิดเป็นการเรียกร้องให้มีจุดยืนที่เข้มงวดมากขึ้นภายในฝ่ายบริหาร เนื่องจากช่องโหว่ทางกฎหมายที่มีอยู่ แม้ว่า ทางฝั่งอุตสาหกรรมจะกดดันให้รักษาสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ตาม

การเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ ในปี 2024 ที่กำลังมาถึงนี้ คาดว่าจะได้รับการต่อต้านอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจีนใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดภายในประเทศ เพื่อโน้มน้าวบริษัทข้ามชาติให้ล็อบบี้รัฐบาลสหรัฐฯ

นอกเหนือจากชิปรุ่นเก่าแล้ว จีนยังจับตาดูแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยก นิกาคธาคได้กล่าวไว้  ซึ่งปัจจุบันเธอทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนของ Wiley Rein สำนักงานกฎหมายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงของชาติ และคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS)

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ มีกรณีการทุ่มตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของจีนเพียงไม่กี่กรณีเท่านั้น แม้ว่าจีนจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ก็ตาม อาจเพราะบริษัทนอกประเทศจีนกลัวว่าจะถูกตอบโต้

สหภาพยุโรป (E.U.) และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในปัจจุบันมีความกังวลเกี่ยวกับการกระทำของจีน สหภาพยุโรปเริ่มสอบสวนเรื่องการต่อต้านเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในเดือนกันยายน โดยเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เน้นย้ำประเด็นนี้ว่า เงินอุดหนุนจากรัฐของจีนบิดเบือนตลาดโลกอย่างไร

แคเธอรีน ไท (Katherine Tai)  ผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกาสนับสนุนจุดยืนของสหภาพยุโรป โดยตั้งข้อสังเกตว่า การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนความไม่สมดุลที่พบในอุตสาหกรรมอื่นๆ เธอเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ เศรษฐกิจแบบประชาธิปไตยต้องอิงตลาดเป็นหลัก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา

กลยุทธ์บีบบังคับของจีนเน้นย้ำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการให้ค่าความสำคัญพื้นฐานของ WTO และความเป็นจริงในปัจจุบัน ตามข้อมูลที่ไทได้กล่าวไว้

การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมปี 2022 มีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนในโหนด 14 นาโนเมตร อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตชิปในจีนเปลี่ยนการโฟกัสไปที่ การผลิตชิปที่มีความก้าวหน้าน้อยกว่า จีน่า ไรมอนโด (Gina Raimondo) รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าว

ผู้ผลิตชิปที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีนวางแผนการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำสินค้าให้ล้นตลาดภายใน ประเทศด้วยชิปรุ่นเก่า ก่อนที่จะกำหนดเป้าหมายไปที่คู่แข่งระดับโลก ตามข้อมูลของ ดีเรก ซิสเซอร์ (Derek Scissors) นักวิชาการของ AEI

รายงานของสมาคมอุตสาหกรรมชิป SEMI คาดการณ์ว่า จีนจะยังคงจัดลำดับความสำคัญในการการลงทุนของรัฐบาลไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มส่วนแบ่งทั่วโลกจาก 22% ในปี 2022 เป็น 25% ในปี 2026 ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งของอเมริกาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 9% ภายในปี 2026.

การที่ Huawei ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ในจีนเช่น SMIC อยู่ในรายชื่อนิติบุคคลของสหรัฐฯ ถือเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ที่ล้มเหลว ตามที่นาซัก นิกาคธารกล่าว เธอเน้นย้ำถึงช่องโหว่ของการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ฉบับล่าสุดที่ประกาศในเดือนตุลาคมปี 2022 และหยิบยกข้อกังวลเกี่ยวกับการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่

นาซัก นิกาคธาร ละเว้นการเสนอชื่อบริษัทของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้อง แต่เน้นไปที่การล่อลวงผลกำไร และการรับเทคโนโลยีของจีนเข้ามาจนเกิดการสูญเสียทางด้านผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เธอเตือนว่า บริษัทชิปในสหรัฐฯ อาจเผชิญกับปัญหา เมื่อจีนประสบความสำเร็จจนพึ่งพาตนเองได้ในอุตสาหกรรมชิป

นาซัก นิกาคธารเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มภายในของ DoC มีกลุ่มคนบางกลุ่มสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกับจีน โดยคาดหวังการปฏิรูป อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้ขัดแย้งกับการเสื่อมถอยของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ อันเกิดจากการกระทำของจีน

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลยุทธ์การทุ่มตลาดเชิงรุกของจีนคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

กลยุทธ์การทุ่มตลาดเชิงรุกของจีนคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

กลยุทธ์การทุ่มตลาดของจีนเป็นอันตรายต่อภาคส่วนเทคโนโลยี โดยมีชิปรุ่นเก่าและแบตเตอรี่ EV เป็นเป้าหมายต่อไป คำเตือนจากอดีตเจ้าหน้าที่ DoC

Lorem ipsum dolor amet consectetur adipiscing elit tortor massa arcu non.

รัฐบาลของจีนได้ใช้กลยุทธ์ทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากต่าง ประเทศและยึดอำนาจมาโดยตลอด ตามที่อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ (DoC) นาซัก นิกาคธาร (Nazak Nikakhtar) ได้กล่าวไว้ โดยการคาดการณ์ของนิกาคธารชี้ไปที่ชิปรุ่นเก่าและแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นเป้าหมายลำดับต่อไป

การดำรงตำแหน่งของนิกาคธาร ในสำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (BIS) ของ DoC ตรงกับช่วงที่จีนเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2001 เธอสังเกตเห็นการปฏิบัติการในระบบของจีน ที่กัดกร่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ     แม้ว่า กฎควบคุมการส่งออกในเดือนตุลาคม 2022 ของสหรัฐฯ จะมุ่งเป้าไปที่การขัดขวางความก้าวหน้าของจีนในด้านโหนดเซมิคอนดักเตอร์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันไม่มีประสิทธิภาพ

SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corp.) กำลังขยายขีดความสามารถอย่างเต็มกำลัง เพื่อทำให้ตลาดเต็มไปด้วยชิปราคาถูก ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายใหญ่เช่น TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co.), Samsung และ SK Hynix จนเกิดเป็นการเรียกร้องให้มีจุดยืนที่เข้มงวดมากขึ้นภายในฝ่ายบริหาร เนื่องจากช่องโหว่ทางกฎหมายที่มีอยู่ แม้ว่า ทางฝั่งอุตสาหกรรมจะกดดันให้รักษาสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ตาม

การเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ ในปี 2024 ที่กำลังมาถึงนี้ คาดว่าจะได้รับการต่อต้านอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจีนใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดภายในประเทศ เพื่อโน้มน้าวบริษัทข้ามชาติให้ล็อบบี้รัฐบาลสหรัฐฯ

นอกเหนือจากชิปรุ่นเก่าแล้ว จีนยังจับตาดูแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยก นิกาคธาคได้กล่าวไว้  ซึ่งปัจจุบันเธอทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนของ Wiley Rein สำนักงานกฎหมายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงของชาติ และคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS)

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ มีกรณีการทุ่มตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของจีนเพียงไม่กี่กรณีเท่านั้น แม้ว่าจีนจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ก็ตาม อาจเพราะบริษัทนอกประเทศจีนกลัวว่าจะถูกตอบโต้

สหภาพยุโรป (E.U.) และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในปัจจุบันมีความกังวลเกี่ยวกับการกระทำของจีน สหภาพยุโรปเริ่มสอบสวนเรื่องการต่อต้านเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในเดือนกันยายน โดยเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เน้นย้ำประเด็นนี้ว่า เงินอุดหนุนจากรัฐของจีนบิดเบือนตลาดโลกอย่างไร

แคเธอรีน ไท (Katherine Tai)  ผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกาสนับสนุนจุดยืนของสหภาพยุโรป โดยตั้งข้อสังเกตว่า การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนความไม่สมดุลที่พบในอุตสาหกรรมอื่นๆ เธอเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ เศรษฐกิจแบบประชาธิปไตยต้องอิงตลาดเป็นหลัก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา

กลยุทธ์บีบบังคับของจีนเน้นย้ำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการให้ค่าความสำคัญพื้นฐานของ WTO และความเป็นจริงในปัจจุบัน ตามข้อมูลที่ไทได้กล่าวไว้

การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมปี 2022 มีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนในโหนด 14 นาโนเมตร อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตชิปในจีนเปลี่ยนการโฟกัสไปที่ การผลิตชิปที่มีความก้าวหน้าน้อยกว่า จีน่า ไรมอนโด (Gina Raimondo) รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าว

ผู้ผลิตชิปที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีนวางแผนการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำสินค้าให้ล้นตลาดภายใน ประเทศด้วยชิปรุ่นเก่า ก่อนที่จะกำหนดเป้าหมายไปที่คู่แข่งระดับโลก ตามข้อมูลของ ดีเรก ซิสเซอร์ (Derek Scissors) นักวิชาการของ AEI

รายงานของสมาคมอุตสาหกรรมชิป SEMI คาดการณ์ว่า จีนจะยังคงจัดลำดับความสำคัญในการการลงทุนของรัฐบาลไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มส่วนแบ่งทั่วโลกจาก 22% ในปี 2022 เป็น 25% ในปี 2026 ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งของอเมริกาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 9% ภายในปี 2026.

การที่ Huawei ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ในจีนเช่น SMIC อยู่ในรายชื่อนิติบุคคลของสหรัฐฯ ถือเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ที่ล้มเหลว ตามที่นาซัก นิกาคธารกล่าว เธอเน้นย้ำถึงช่องโหว่ของการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ฉบับล่าสุดที่ประกาศในเดือนตุลาคมปี 2022 และหยิบยกข้อกังวลเกี่ยวกับการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่

นาซัก นิกาคธาร ละเว้นการเสนอชื่อบริษัทของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้อง แต่เน้นไปที่การล่อลวงผลกำไร และการรับเทคโนโลยีของจีนเข้ามาจนเกิดการสูญเสียทางด้านผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เธอเตือนว่า บริษัทชิปในสหรัฐฯ อาจเผชิญกับปัญหา เมื่อจีนประสบความสำเร็จจนพึ่งพาตนเองได้ในอุตสาหกรรมชิป

นาซัก นิกาคธารเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มภายในของ DoC มีกลุ่มคนบางกลุ่มสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกับจีน โดยคาดหวังการปฏิรูป อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้ขัดแย้งกับการเสื่อมถอยของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ อันเกิดจากการกระทำของจีน

Related articles