ทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค

มาเรียนรู้และเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และรายละเอียดต่าง ๆ กันเถอะ

ทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค

ฟิวส์เป็นอุปกรณ์สำคัญในวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่หลักในการป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินและไฟฟ้าลัดวงจร การทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์ รวมถึงข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค (Datasheet) จึงมีความจำเป็น เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานฟิวส์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกฟิวส์ที่สอดคล้องกับอุปกรณ์และระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ความสำคัญของสัญลักษณ์บนฟิวส์

สัญลักษณ์บนฟิวส์ คือข้อมูลที่แสดงคุณลักษณะทางไฟฟ้าและทางกายภาพที่สำคัญของฟิวส์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเลือกใช้งานฟิวส์ให้เหมาะสมและปลอดภัย โดยข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินความสามารถของฟิวส์ในการทำงานร่วมกับวงจรหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างของข้อมูลหลักที่มักปรากฏบนสัญลักษณ์บนฟิวส์ ได้แก่:

  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Current Rating, I): กระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถทนได้โดยไม่ขาด
  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Voltage Rating, V): แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้อย่างปลอดภัย
  • ค่าพิกัดกระแสลัดวงจร (Interrupting Rating): กระแสลัดวงจรสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย
  • ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและกระแสไฟฟ้า (Time-Current Characteristic): ความเร็วที่ฟิวส์ตอบสนองต่อกระแสไฟฟ้าเกิน

หากตีความสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การเลือกฟิวส์ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดความล้มเหลวของอุปกรณ์หรืออาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยได้

สัญลักษณ์บนฟิวส์ทั่วไปและความหมาย

แม้สัญลักษณ์บนฟิวส์จะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต แต่โดยทั่วไปจะอ้างอิงตามมาตรฐานสากล ตัวอย่างสัญลักษณ์ที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Ampere, A): แสดงค่ากระแสไฟฟ้าตัวนี้จะบอกถึงความสามารถของฟิวส์ที่สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้กี่แอมป์ เช่น  7 A นั่นหมายถึงฟิวส์สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้ถึง 7 แอมป์ หากกระแสเกินกว่านี้ ฟิวส์อาจขาดหรือเสียหายได้
  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Voltage, V): ระบุแรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย เช่น 250V เป็นต้น
  • ค่ากระแสลัดวงจรสูงสุด (Interrupting Rating, kA): กระแสไฟฟ้าลัดวงจรสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะมีค่าค่อนข้างสูง เช่น 10 KA เป็นต้น
  • ประเภทของฟิวส์ตามความเร็วในการตอบสนอง:
    • F (Fast-acting): ฟิวส์ที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความแม่นยำ
    • T (Time-delay): ฟิวส์ที่หน่วงเวลาเล็กน้อย เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีไฟกระชาก เช่น มอเตอร์หรือหม้อแปลง
    • M (Medium-blow): ฟิวส์ที่สมดุลระหว่างความสามารถในการทนต่อไฟกระชากเร็วและช้า
  • มาตรฐานและการได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ เช่น  IEC: International Electrotechnical Commission เป็นมาตรฐานที่ทุกประเทศให้การยอมรับเป็นต้น
  • เลข  Part No. จากผู้ผลิต จะเป็นเลขเฉพาะ ยกตัวอย่าง เช่น
    • 0217005.MXP
    • 0217 หมายถึงเลขซีรีส์
    • 005 หมายถึงค่าพิกัด 5 แอมป์
    • H  หมายถึงแพ็ค 100 ของผู้ผลิต (บางผู้ผลิตอาจจำหน่ายแยกชิ้น)
    • X หมายถึงตัวระบุประเภทฟิวส์แบบรวม
    • P เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นไปตามข้อกำหนด RoHS (ปราศจากวัสดุอันตราย)

การอ่านแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์

ในแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์ จะประกอบด้วย ภาพ กราฟ และพารามิเตอร์ต่างๆ ที่สรุปคุณสมบัติสำคัญของฟิวส์ซึ่งควรรู้ก่อนนำไปใช้งาน เช่น คุณลักษณะทางไฟฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและเวลา รวมถึงข้อมูลพื้นฐานทางกายภาพและวัสดุที่ใช้ผลิตฟิวส์

  • ตัวแปรทางไฟฟ้า เช่น กระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Iₙ) – กระแสไฟฟ้าที่กำหนดซึ่งฟิวส์สามารถรับได้อย่างต่อเนื่อง หรือแรงดันไฟฟ้าที่กำหนด (Vₙ) – แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถรับได้ และความสามารถในการตัดไฟ (Iᵦ) – กระแสไฟฟ้าที่ตัดได้สูงสุด
  • กราฟเวลา-กระแสไฟฟ้า ที่แสดงให้เห็นว่าฟิวส์ขาดเร็วแค่ไหนภายใต้สภาวะโอเวอร์โหลดที่แตกต่างกัน
  • ประสิทธิภาพของฟิวส์จะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิ โดยทั่วไปกระแสไฟฟ้าที่ฟิวส์สามารถทนได้จะลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้จากกราฟในแผ่นข้อมูล
  • วัสดุของฟิวส์ เช่น ทองแดง เงิน โลหะผสม หรือตัวประกอบฟิวส์ เป็นเซรามิก แก้ว หรือพลาสติก เป็นต้น

วิธีการเลือกฟิวส์ให้ถูกต้องตามลักษณะของสัญลักษณ์และข้อมูลรายละเอียดของฟิวส์

  1. เลือกฟิวส์ที่มีกระแสไฟฟ้าสูงกว่าโหลดเล็กน้อย เพื่อป้องกันการขาดจากกระแสไฟเกินที่ไม่ปกติ
  2. เลือกแรงดันไฟฟ้าที่รองรับได้เท่ากับหรือสูงกว่าอุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
  3. ตรวจสอบความสามารถในการตัดวงจรลัด เพื่อให้ฟิวส์สามารถตัดวงจรได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดกระแสไฟเกินอย่างรุนแรง
  4. พิจารณาการตอบสนองของฟิวส์ ตามระยะเวลาในการตัดวงจร เพื่อเลือกประเภทฟิวส์ที่เหมาะสมกับลักษณะการทำงาน
  5. ดูมาตรฐานความปลอดภัยและการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น IEC หรือ UL

สรุป

การทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับต่อการเลือกใช้ฟิวส์และการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะสามารถรับประกันการทำงานของฟิวส์ได้อย่างปลอดภัยและมีความมั่นใจน่าเชื่อถือได้ โดยจะต้องพิจารณาการตีความค่าตัวแปรทางไฟฟ้า ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าแรงดันไฟ ความสามารถในการตัดวงจร และเวลาตอบสนอง ตลอดจนการพิจารณาแผ่นข้อมูลทางเทคนิคอยู่เสมอเพื่อดูข้อมูลจำเพาะโดยละเอียดและปรึกษากับบริษัทผู้ผลิตหากคุณสมบัติไม่ตรงกับกับอุปกรณ์ที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปได้

ทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค

มาเรียนรู้และเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และรายละเอียดต่าง ๆ กันเถอะ

นักเขียนบทความ
by 
นักเขียนบทความ
ทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค

ทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค

มาเรียนรู้และเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และรายละเอียดต่าง ๆ กันเถอะ

ฟิวส์เป็นอุปกรณ์สำคัญในวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่หลักในการป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินและไฟฟ้าลัดวงจร การทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์ รวมถึงข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค (Datasheet) จึงมีความจำเป็น เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานฟิวส์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกฟิวส์ที่สอดคล้องกับอุปกรณ์และระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ความสำคัญของสัญลักษณ์บนฟิวส์

สัญลักษณ์บนฟิวส์ คือข้อมูลที่แสดงคุณลักษณะทางไฟฟ้าและทางกายภาพที่สำคัญของฟิวส์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเลือกใช้งานฟิวส์ให้เหมาะสมและปลอดภัย โดยข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินความสามารถของฟิวส์ในการทำงานร่วมกับวงจรหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างของข้อมูลหลักที่มักปรากฏบนสัญลักษณ์บนฟิวส์ ได้แก่:

  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Current Rating, I): กระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถทนได้โดยไม่ขาด
  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Voltage Rating, V): แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้อย่างปลอดภัย
  • ค่าพิกัดกระแสลัดวงจร (Interrupting Rating): กระแสลัดวงจรสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย
  • ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและกระแสไฟฟ้า (Time-Current Characteristic): ความเร็วที่ฟิวส์ตอบสนองต่อกระแสไฟฟ้าเกิน

หากตีความสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การเลือกฟิวส์ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดความล้มเหลวของอุปกรณ์หรืออาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยได้

สัญลักษณ์บนฟิวส์ทั่วไปและความหมาย

แม้สัญลักษณ์บนฟิวส์จะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต แต่โดยทั่วไปจะอ้างอิงตามมาตรฐานสากล ตัวอย่างสัญลักษณ์ที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Ampere, A): แสดงค่ากระแสไฟฟ้าตัวนี้จะบอกถึงความสามารถของฟิวส์ที่สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้กี่แอมป์ เช่น  7 A นั่นหมายถึงฟิวส์สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้ถึง 7 แอมป์ หากกระแสเกินกว่านี้ ฟิวส์อาจขาดหรือเสียหายได้
  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Voltage, V): ระบุแรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย เช่น 250V เป็นต้น
  • ค่ากระแสลัดวงจรสูงสุด (Interrupting Rating, kA): กระแสไฟฟ้าลัดวงจรสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะมีค่าค่อนข้างสูง เช่น 10 KA เป็นต้น
  • ประเภทของฟิวส์ตามความเร็วในการตอบสนอง:
    • F (Fast-acting): ฟิวส์ที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความแม่นยำ
    • T (Time-delay): ฟิวส์ที่หน่วงเวลาเล็กน้อย เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีไฟกระชาก เช่น มอเตอร์หรือหม้อแปลง
    • M (Medium-blow): ฟิวส์ที่สมดุลระหว่างความสามารถในการทนต่อไฟกระชากเร็วและช้า
  • มาตรฐานและการได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ เช่น  IEC: International Electrotechnical Commission เป็นมาตรฐานที่ทุกประเทศให้การยอมรับเป็นต้น
  • เลข  Part No. จากผู้ผลิต จะเป็นเลขเฉพาะ ยกตัวอย่าง เช่น
    • 0217005.MXP
    • 0217 หมายถึงเลขซีรีส์
    • 005 หมายถึงค่าพิกัด 5 แอมป์
    • H  หมายถึงแพ็ค 100 ของผู้ผลิต (บางผู้ผลิตอาจจำหน่ายแยกชิ้น)
    • X หมายถึงตัวระบุประเภทฟิวส์แบบรวม
    • P เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นไปตามข้อกำหนด RoHS (ปราศจากวัสดุอันตราย)

การอ่านแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์

ในแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์ จะประกอบด้วย ภาพ กราฟ และพารามิเตอร์ต่างๆ ที่สรุปคุณสมบัติสำคัญของฟิวส์ซึ่งควรรู้ก่อนนำไปใช้งาน เช่น คุณลักษณะทางไฟฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและเวลา รวมถึงข้อมูลพื้นฐานทางกายภาพและวัสดุที่ใช้ผลิตฟิวส์

  • ตัวแปรทางไฟฟ้า เช่น กระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Iₙ) – กระแสไฟฟ้าที่กำหนดซึ่งฟิวส์สามารถรับได้อย่างต่อเนื่อง หรือแรงดันไฟฟ้าที่กำหนด (Vₙ) – แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถรับได้ และความสามารถในการตัดไฟ (Iᵦ) – กระแสไฟฟ้าที่ตัดได้สูงสุด
  • กราฟเวลา-กระแสไฟฟ้า ที่แสดงให้เห็นว่าฟิวส์ขาดเร็วแค่ไหนภายใต้สภาวะโอเวอร์โหลดที่แตกต่างกัน
  • ประสิทธิภาพของฟิวส์จะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิ โดยทั่วไปกระแสไฟฟ้าที่ฟิวส์สามารถทนได้จะลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้จากกราฟในแผ่นข้อมูล
  • วัสดุของฟิวส์ เช่น ทองแดง เงิน โลหะผสม หรือตัวประกอบฟิวส์ เป็นเซรามิก แก้ว หรือพลาสติก เป็นต้น

วิธีการเลือกฟิวส์ให้ถูกต้องตามลักษณะของสัญลักษณ์และข้อมูลรายละเอียดของฟิวส์

  1. เลือกฟิวส์ที่มีกระแสไฟฟ้าสูงกว่าโหลดเล็กน้อย เพื่อป้องกันการขาดจากกระแสไฟเกินที่ไม่ปกติ
  2. เลือกแรงดันไฟฟ้าที่รองรับได้เท่ากับหรือสูงกว่าอุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
  3. ตรวจสอบความสามารถในการตัดวงจรลัด เพื่อให้ฟิวส์สามารถตัดวงจรได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดกระแสไฟเกินอย่างรุนแรง
  4. พิจารณาการตอบสนองของฟิวส์ ตามระยะเวลาในการตัดวงจร เพื่อเลือกประเภทฟิวส์ที่เหมาะสมกับลักษณะการทำงาน
  5. ดูมาตรฐานความปลอดภัยและการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น IEC หรือ UL

สรุป

การทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับต่อการเลือกใช้ฟิวส์และการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะสามารถรับประกันการทำงานของฟิวส์ได้อย่างปลอดภัยและมีความมั่นใจน่าเชื่อถือได้ โดยจะต้องพิจารณาการตีความค่าตัวแปรทางไฟฟ้า ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าแรงดันไฟ ความสามารถในการตัดวงจร และเวลาตอบสนอง ตลอดจนการพิจารณาแผ่นข้อมูลทางเทคนิคอยู่เสมอเพื่อดูข้อมูลจำเพาะโดยละเอียดและปรึกษากับบริษัทผู้ผลิตหากคุณสมบัติไม่ตรงกับกับอุปกรณ์ที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปได้

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique. Duis cursus, mi quis viverra ornare, eros dolor interdum nulla, ut commodo diam libero vitae erat. Aenean faucibus nibh et justo cursus id rutrum lorem imperdiet. Nunc ut sem vitae risus tristique posuere.

ทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค

ทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค

มาเรียนรู้และเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และรายละเอียดต่าง ๆ กันเถอะ

Lorem ipsum dolor amet consectetur adipiscing elit tortor massa arcu non.

ฟิวส์เป็นอุปกรณ์สำคัญในวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่หลักในการป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินและไฟฟ้าลัดวงจร การทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์ รวมถึงข้อมูลจากแผ่นข้อมูลทางเทคนิค (Datasheet) จึงมีความจำเป็น เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานฟิวส์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกฟิวส์ที่สอดคล้องกับอุปกรณ์และระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ความสำคัญของสัญลักษณ์บนฟิวส์

สัญลักษณ์บนฟิวส์ คือข้อมูลที่แสดงคุณลักษณะทางไฟฟ้าและทางกายภาพที่สำคัญของฟิวส์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเลือกใช้งานฟิวส์ให้เหมาะสมและปลอดภัย โดยข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินความสามารถของฟิวส์ในการทำงานร่วมกับวงจรหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างของข้อมูลหลักที่มักปรากฏบนสัญลักษณ์บนฟิวส์ ได้แก่:

  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Current Rating, I): กระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถทนได้โดยไม่ขาด
  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Voltage Rating, V): แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้อย่างปลอดภัย
  • ค่าพิกัดกระแสลัดวงจร (Interrupting Rating): กระแสลัดวงจรสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย
  • ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและกระแสไฟฟ้า (Time-Current Characteristic): ความเร็วที่ฟิวส์ตอบสนองต่อกระแสไฟฟ้าเกิน

หากตีความสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การเลือกฟิวส์ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดความล้มเหลวของอุปกรณ์หรืออาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยได้

สัญลักษณ์บนฟิวส์ทั่วไปและความหมาย

แม้สัญลักษณ์บนฟิวส์จะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต แต่โดยทั่วไปจะอ้างอิงตามมาตรฐานสากล ตัวอย่างสัญลักษณ์ที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Ampere, A): แสดงค่ากระแสไฟฟ้าตัวนี้จะบอกถึงความสามารถของฟิวส์ที่สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้กี่แอมป์ เช่น  7 A นั่นหมายถึงฟิวส์สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้ถึง 7 แอมป์ หากกระแสเกินกว่านี้ ฟิวส์อาจขาดหรือเสียหายได้
  • ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Voltage, V): ระบุแรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย เช่น 250V เป็นต้น
  • ค่ากระแสลัดวงจรสูงสุด (Interrupting Rating, kA): กระแสไฟฟ้าลัดวงจรสูงสุดที่ฟิวส์สามารถตัดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะมีค่าค่อนข้างสูง เช่น 10 KA เป็นต้น
  • ประเภทของฟิวส์ตามความเร็วในการตอบสนอง:
    • F (Fast-acting): ฟิวส์ที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความแม่นยำ
    • T (Time-delay): ฟิวส์ที่หน่วงเวลาเล็กน้อย เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีไฟกระชาก เช่น มอเตอร์หรือหม้อแปลง
    • M (Medium-blow): ฟิวส์ที่สมดุลระหว่างความสามารถในการทนต่อไฟกระชากเร็วและช้า
  • มาตรฐานและการได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ เช่น  IEC: International Electrotechnical Commission เป็นมาตรฐานที่ทุกประเทศให้การยอมรับเป็นต้น
  • เลข  Part No. จากผู้ผลิต จะเป็นเลขเฉพาะ ยกตัวอย่าง เช่น
    • 0217005.MXP
    • 0217 หมายถึงเลขซีรีส์
    • 005 หมายถึงค่าพิกัด 5 แอมป์
    • H  หมายถึงแพ็ค 100 ของผู้ผลิต (บางผู้ผลิตอาจจำหน่ายแยกชิ้น)
    • X หมายถึงตัวระบุประเภทฟิวส์แบบรวม
    • P เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นไปตามข้อกำหนด RoHS (ปราศจากวัสดุอันตราย)

การอ่านแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์

ในแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์ จะประกอบด้วย ภาพ กราฟ และพารามิเตอร์ต่างๆ ที่สรุปคุณสมบัติสำคัญของฟิวส์ซึ่งควรรู้ก่อนนำไปใช้งาน เช่น คุณลักษณะทางไฟฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและเวลา รวมถึงข้อมูลพื้นฐานทางกายภาพและวัสดุที่ใช้ผลิตฟิวส์

  • ตัวแปรทางไฟฟ้า เช่น กระแสไฟฟ้าที่กำหนด (Iₙ) – กระแสไฟฟ้าที่กำหนดซึ่งฟิวส์สามารถรับได้อย่างต่อเนื่อง หรือแรงดันไฟฟ้าที่กำหนด (Vₙ) – แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ฟิวส์สามารถรับได้ และความสามารถในการตัดไฟ (Iᵦ) – กระแสไฟฟ้าที่ตัดได้สูงสุด
  • กราฟเวลา-กระแสไฟฟ้า ที่แสดงให้เห็นว่าฟิวส์ขาดเร็วแค่ไหนภายใต้สภาวะโอเวอร์โหลดที่แตกต่างกัน
  • ประสิทธิภาพของฟิวส์จะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิ โดยทั่วไปกระแสไฟฟ้าที่ฟิวส์สามารถทนได้จะลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้จากกราฟในแผ่นข้อมูล
  • วัสดุของฟิวส์ เช่น ทองแดง เงิน โลหะผสม หรือตัวประกอบฟิวส์ เป็นเซรามิก แก้ว หรือพลาสติก เป็นต้น

วิธีการเลือกฟิวส์ให้ถูกต้องตามลักษณะของสัญลักษณ์และข้อมูลรายละเอียดของฟิวส์

  1. เลือกฟิวส์ที่มีกระแสไฟฟ้าสูงกว่าโหลดเล็กน้อย เพื่อป้องกันการขาดจากกระแสไฟเกินที่ไม่ปกติ
  2. เลือกแรงดันไฟฟ้าที่รองรับได้เท่ากับหรือสูงกว่าอุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
  3. ตรวจสอบความสามารถในการตัดวงจรลัด เพื่อให้ฟิวส์สามารถตัดวงจรได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดกระแสไฟเกินอย่างรุนแรง
  4. พิจารณาการตอบสนองของฟิวส์ ตามระยะเวลาในการตัดวงจร เพื่อเลือกประเภทฟิวส์ที่เหมาะสมกับลักษณะการทำงาน
  5. ดูมาตรฐานความปลอดภัยและการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น IEC หรือ UL

สรุป

การทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฟิวส์และแผ่นข้อมูลทางเทคนิคของฟิวส์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับต่อการเลือกใช้ฟิวส์และการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะสามารถรับประกันการทำงานของฟิวส์ได้อย่างปลอดภัยและมีความมั่นใจน่าเชื่อถือได้ โดยจะต้องพิจารณาการตีความค่าตัวแปรทางไฟฟ้า ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าแรงดันไฟ ความสามารถในการตัดวงจร และเวลาตอบสนอง ตลอดจนการพิจารณาแผ่นข้อมูลทางเทคนิคอยู่เสมอเพื่อดูข้อมูลจำเพาะโดยละเอียดและปรึกษากับบริษัทผู้ผลิตหากคุณสมบัติไม่ตรงกับกับอุปกรณ์ที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปได้