การถอดรหัส ATE: อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) สำคัญต่อการประเมินอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจเรื่องคุณภาพของอุปกรณ์

การถอดรหัส ATE: อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

เมื่อ IC เข้าสู่กระบวนการผลิต ความจำเป็นเรื่องการทดสอบข้อบกพร่อง ในการผลิตเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ลูกค้าได้รับอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ดี และเป็นการรับประกันระดับข้อบกพร่องที่ต่ำ การทดสอบที่ดำเนินการในการผลิต ต้องครอบคลุมอย่างเหมาะสม และในขณะเดียวกันก็ต้องมีต้นทุนต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บทบาทของอุปกรณ์ทดสอบทางกายภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ ในระหว่างการทดสอบการผลิต อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) จะถูกใช้เพื่อลดเวลาการทดสอบ โดยการทำให้กระบวนการทดสอบเป็นอัตโนมัติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เหตุผลที่ต้องการมีการทดสอบ

วงจรรวม (Integrated Circuit: IC) ต้องผ่านการทดสอบต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบเบื้องต้น จนถึงขั้นตอนการผลิตเต็มรูปแบบ และบทบาทหน้าที่ของการทดสอบ ณ จุดต่างๆ ที่ระบุไว้ในแต่ละ ช่วงเวลาจะสะท้อนให้เห็นความจำเป็นในการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ สาเหตุในการทดสอบ การออกแบบมีดังต่อไปนี้  

      1. ความไม่แน่นอนในการออกแบบ  ต้องทำให้แน่ใจว่าการออกแบบเป็นไปตามข้อกำหนดที่ต้องการ ในระหว่างการพัฒนาการออกแบบเบื้องต้นและก่อนที่จะผลิตอุปกรณ์จะต้องจำลองโมเดล และเมื่อผลิตอุปกรณ์ต้นแบบแล้วจะต้องกำหนดลักษณะของอุปกรณ์ (การดีบักการออกแบบ/การตรวจสอบการทำงาน และการกำหนดข้อกำหนดพารามิเตอร์ (DC และ AC)

      2. การผลิต/การทดสอบการผลิต

เริ่มขึ้นเมื่อการออกแบบได้รับการยอมรับการผลิตแล้ว การทดสอบการผลิตหมายถึง การระบุอุปกรณ์ที่มีข้อบกพร่อง เนื่องจากปัญหาการผลิต จะดำเนินการกับอุปกรณ์ ที่ตรวจสอบแล้วว่าออกแบบได้ถูกต้อง โดยจะทดสอบข้อผิดพลาดร้ายแรง (จุดบกพร่องเฉพาะที่) ข้อผิดพลาดเล็กน้อย (การเปลี่ยนแปลงของกระบวนการ) และอันตรายต่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะดำเนินการโดยอัตโนมัติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากเครื่องจักรสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าคน และยังทำขั้นตอนต่างๆ ซำ้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

      3. กฎระเบียบ

ต้องแสดงให้เห็นว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเฉพาะเช่น EMC/EMI และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

      4. การบำรุงรักษา

เริ่มขึ้นเมื่ออุปกรณ์อยู่ในสถานะใช้งานครั้งสุดท้ายแล้ว จากนั้นจึงดำเนินการงานประจำเช่น ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ที่ถูกต้องและการสอบเทียบวงจรเป็นระยะ

      5. สัญญา ลูกค้าบางรายอาจต้องการให้ทำการทดสอบเฉพาะกับอุปกรณ์เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดเฉพาะของตนเอง

ATE: Automated Test Equipment Systems

การทดสอบการผลิตต้องทดสอบให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และพื้นที่การใช้งานผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ด้วยต้นทุนต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หมายความว่า ต้องใช้อุปกรณ์ที่คุ้มต้นทุน ที่สุดและลดเวลาทดสอบต่ออุปกรณ์ให้เหลือน้อยที่สุด บทบาทของอุปกรณ์ทดสอบที่ใช้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายนี้ โดยทั่วไปโปรแกรมทดสอบ (ซอฟต์แวร์) จะถูกเรียกใช้บนเครื่องทดสอบเพื่อนำขั้นตอนการทดสอบที่จำเป็นไปใช้ เครื่องทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ต้องการทั้งชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อตั้งค่าและ ควบคุมเครื่องทดสอบและการทำงานของโปรแกรมทดสอบ ในระหว่างขั้นตอนทดสอบการผลิต อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) จะถูกใช้เพื่อลดเวลาทดสอบ โดยทำให้กระบวนการทดสอบ เป็นอัตโนมัติมากที่สุด  อุปกรณ์ที่ใช้สามารถจำแนกได้ดังนี้

  • อุปกรณ์ทดสอบเฉพาะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อวัดพารามิเตอร์เฉพาะของอุปกรณ์ อุปกรณ์นี้ออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์เฉพาะหรือชุดอุปกรณ์ขนาดเล็ก
  • เครื่องทดสอบอเนกประสงค์ใช้ทดสอบอุปกรณ์หลากหลายประเภท โดยอุปกรณ์แต่ละชนิดจะมีพารามิเตอร์การทำงานที่แตกต่างกัน เครื่องทดสอบประเภทนี้จะปรับแต่งให้เข้ากับ IC เฉพาะชั่วคราวเพื่อทดสอบ

นอกจากนี้ประเภทอุปกรณ์ที่จะทดสอบจะกำหนดทรัพยากรที่ตัวทดสอบ (Tester) ต้องการ โดยทั่วไป Tester จะถูกแบ่งประเภทดังนี้

ดิจิทัล (Digital) ปรับให้เหมาะสมกับวงจรและระบบดิจิทัลที่มีพินอินพุต/เอาต์พุตดิจิทัลความเร็วสูงจำนวนมาก และความสามารถในรูปแบบสัญญาณอะนาล็อกที่จำกัด

หน่วยความจำ (Memory) ปรับให้เหมาะสมกับการทดสอบอุปกรณ์หน่วยความจำ

อะนาล็อก (Analogue) ปรับให้เหมาะสมกับวงจรอะนาล็อกที่มีพินกระแสและแรงดันไฟฟ้าอินพุต/เอาต์พุตอะนาล็อก ประสิทธิภาพสูง การรับข้อมูลประสิทธิภาพสูงและการรับสัญญาณดิจิทัลที่จำกัด

เครื่องทดสอบสัญญาณผสม (Mixed-Signal Testers) ต้องมีสัญญาณอินพุต/เอาต์พุตดิจิทัลและอะนาล็อกในระดับที่ดี แต่ไม่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพเท่ากับเครื่องทดสอบดิจิทัลหรืออะนาล็อกทำได้

การทดสอบโดยทั่วไปจะมีการทดสอบดังนี้ การทดสอบด้านพลังงาน (Power Consumption AC/DC) การทดสอบสัญญาณ  (Signal Propagation / Response) การทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผล (Processor Performance Test) การทดสอบด้านความเครียด (Endurance) และอื่นๆ

อีกทั้งยังมีข้อพิจารณาหลายประการที่เกี่ยวข้องกับระบบ ATE ซึ่งรวมถึง

  • จำนวน I/O และแหล่งจ่ายไฟที่ DUT (Device under Test) ต้องการและพร้อมใช้งานจากตัวทดสอบ
  • คุณภาพของสัญญาณที่ตัวทดสอบสามารถสร้างได้
  • ความสามารถในการจับและวิเคราะห์ข้อมูล
  • ข้อจำกัดด้านความถี่ในการทำงานเนื่องจากความยาวของสายเคเบิลไปยังหัวทดสอบ
  • เวลาทดสอบต่อ IC
  • ต้นทุน ATE เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

การถอดรหัส ATE: อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) สำคัญต่อการประเมินอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจเรื่องคุณภาพของอุปกรณ์

นักเขียนบทความ
by 
นักเขียนบทความ
การถอดรหัส ATE: อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

การถอดรหัส ATE: อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) สำคัญต่อการประเมินอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจเรื่องคุณภาพของอุปกรณ์

เมื่อ IC เข้าสู่กระบวนการผลิต ความจำเป็นเรื่องการทดสอบข้อบกพร่อง ในการผลิตเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ลูกค้าได้รับอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ดี และเป็นการรับประกันระดับข้อบกพร่องที่ต่ำ การทดสอบที่ดำเนินการในการผลิต ต้องครอบคลุมอย่างเหมาะสม และในขณะเดียวกันก็ต้องมีต้นทุนต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บทบาทของอุปกรณ์ทดสอบทางกายภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ ในระหว่างการทดสอบการผลิต อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) จะถูกใช้เพื่อลดเวลาการทดสอบ โดยการทำให้กระบวนการทดสอบเป็นอัตโนมัติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เหตุผลที่ต้องการมีการทดสอบ

วงจรรวม (Integrated Circuit: IC) ต้องผ่านการทดสอบต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบเบื้องต้น จนถึงขั้นตอนการผลิตเต็มรูปแบบ และบทบาทหน้าที่ของการทดสอบ ณ จุดต่างๆ ที่ระบุไว้ในแต่ละ ช่วงเวลาจะสะท้อนให้เห็นความจำเป็นในการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ สาเหตุในการทดสอบ การออกแบบมีดังต่อไปนี้  

      1. ความไม่แน่นอนในการออกแบบ  ต้องทำให้แน่ใจว่าการออกแบบเป็นไปตามข้อกำหนดที่ต้องการ ในระหว่างการพัฒนาการออกแบบเบื้องต้นและก่อนที่จะผลิตอุปกรณ์จะต้องจำลองโมเดล และเมื่อผลิตอุปกรณ์ต้นแบบแล้วจะต้องกำหนดลักษณะของอุปกรณ์ (การดีบักการออกแบบ/การตรวจสอบการทำงาน และการกำหนดข้อกำหนดพารามิเตอร์ (DC และ AC)

      2. การผลิต/การทดสอบการผลิต

เริ่มขึ้นเมื่อการออกแบบได้รับการยอมรับการผลิตแล้ว การทดสอบการผลิตหมายถึง การระบุอุปกรณ์ที่มีข้อบกพร่อง เนื่องจากปัญหาการผลิต จะดำเนินการกับอุปกรณ์ ที่ตรวจสอบแล้วว่าออกแบบได้ถูกต้อง โดยจะทดสอบข้อผิดพลาดร้ายแรง (จุดบกพร่องเฉพาะที่) ข้อผิดพลาดเล็กน้อย (การเปลี่ยนแปลงของกระบวนการ) และอันตรายต่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะดำเนินการโดยอัตโนมัติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากเครื่องจักรสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าคน และยังทำขั้นตอนต่างๆ ซำ้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

      3. กฎระเบียบ

ต้องแสดงให้เห็นว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเฉพาะเช่น EMC/EMI และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

      4. การบำรุงรักษา

เริ่มขึ้นเมื่ออุปกรณ์อยู่ในสถานะใช้งานครั้งสุดท้ายแล้ว จากนั้นจึงดำเนินการงานประจำเช่น ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ที่ถูกต้องและการสอบเทียบวงจรเป็นระยะ

      5. สัญญา ลูกค้าบางรายอาจต้องการให้ทำการทดสอบเฉพาะกับอุปกรณ์เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดเฉพาะของตนเอง

ATE: Automated Test Equipment Systems

การทดสอบการผลิตต้องทดสอบให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และพื้นที่การใช้งานผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ด้วยต้นทุนต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หมายความว่า ต้องใช้อุปกรณ์ที่คุ้มต้นทุน ที่สุดและลดเวลาทดสอบต่ออุปกรณ์ให้เหลือน้อยที่สุด บทบาทของอุปกรณ์ทดสอบที่ใช้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายนี้ โดยทั่วไปโปรแกรมทดสอบ (ซอฟต์แวร์) จะถูกเรียกใช้บนเครื่องทดสอบเพื่อนำขั้นตอนการทดสอบที่จำเป็นไปใช้ เครื่องทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ต้องการทั้งชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อตั้งค่าและ ควบคุมเครื่องทดสอบและการทำงานของโปรแกรมทดสอบ ในระหว่างขั้นตอนทดสอบการผลิต อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) จะถูกใช้เพื่อลดเวลาทดสอบ โดยทำให้กระบวนการทดสอบ เป็นอัตโนมัติมากที่สุด  อุปกรณ์ที่ใช้สามารถจำแนกได้ดังนี้

  • อุปกรณ์ทดสอบเฉพาะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อวัดพารามิเตอร์เฉพาะของอุปกรณ์ อุปกรณ์นี้ออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์เฉพาะหรือชุดอุปกรณ์ขนาดเล็ก
  • เครื่องทดสอบอเนกประสงค์ใช้ทดสอบอุปกรณ์หลากหลายประเภท โดยอุปกรณ์แต่ละชนิดจะมีพารามิเตอร์การทำงานที่แตกต่างกัน เครื่องทดสอบประเภทนี้จะปรับแต่งให้เข้ากับ IC เฉพาะชั่วคราวเพื่อทดสอบ

นอกจากนี้ประเภทอุปกรณ์ที่จะทดสอบจะกำหนดทรัพยากรที่ตัวทดสอบ (Tester) ต้องการ โดยทั่วไป Tester จะถูกแบ่งประเภทดังนี้

ดิจิทัล (Digital) ปรับให้เหมาะสมกับวงจรและระบบดิจิทัลที่มีพินอินพุต/เอาต์พุตดิจิทัลความเร็วสูงจำนวนมาก และความสามารถในรูปแบบสัญญาณอะนาล็อกที่จำกัด

หน่วยความจำ (Memory) ปรับให้เหมาะสมกับการทดสอบอุปกรณ์หน่วยความจำ

อะนาล็อก (Analogue) ปรับให้เหมาะสมกับวงจรอะนาล็อกที่มีพินกระแสและแรงดันไฟฟ้าอินพุต/เอาต์พุตอะนาล็อก ประสิทธิภาพสูง การรับข้อมูลประสิทธิภาพสูงและการรับสัญญาณดิจิทัลที่จำกัด

เครื่องทดสอบสัญญาณผสม (Mixed-Signal Testers) ต้องมีสัญญาณอินพุต/เอาต์พุตดิจิทัลและอะนาล็อกในระดับที่ดี แต่ไม่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพเท่ากับเครื่องทดสอบดิจิทัลหรืออะนาล็อกทำได้

การทดสอบโดยทั่วไปจะมีการทดสอบดังนี้ การทดสอบด้านพลังงาน (Power Consumption AC/DC) การทดสอบสัญญาณ  (Signal Propagation / Response) การทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผล (Processor Performance Test) การทดสอบด้านความเครียด (Endurance) และอื่นๆ

อีกทั้งยังมีข้อพิจารณาหลายประการที่เกี่ยวข้องกับระบบ ATE ซึ่งรวมถึง

  • จำนวน I/O และแหล่งจ่ายไฟที่ DUT (Device under Test) ต้องการและพร้อมใช้งานจากตัวทดสอบ
  • คุณภาพของสัญญาณที่ตัวทดสอบสามารถสร้างได้
  • ความสามารถในการจับและวิเคราะห์ข้อมูล
  • ข้อจำกัดด้านความถี่ในการทำงานเนื่องจากความยาวของสายเคเบิลไปยังหัวทดสอบ
  • เวลาทดสอบต่อ IC
  • ต้นทุน ATE เป็นต้น

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique. Duis cursus, mi quis viverra ornare, eros dolor interdum nulla, ut commodo diam libero vitae erat. Aenean faucibus nibh et justo cursus id rutrum lorem imperdiet. Nunc ut sem vitae risus tristique posuere.

การถอดรหัส ATE: อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

การถอดรหัส ATE: อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติคืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) สำคัญต่อการประเมินอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจเรื่องคุณภาพของอุปกรณ์

Lorem ipsum dolor amet consectetur adipiscing elit tortor massa arcu non.

เมื่อ IC เข้าสู่กระบวนการผลิต ความจำเป็นเรื่องการทดสอบข้อบกพร่อง ในการผลิตเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ลูกค้าได้รับอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ดี และเป็นการรับประกันระดับข้อบกพร่องที่ต่ำ การทดสอบที่ดำเนินการในการผลิต ต้องครอบคลุมอย่างเหมาะสม และในขณะเดียวกันก็ต้องมีต้นทุนต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บทบาทของอุปกรณ์ทดสอบทางกายภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ ในระหว่างการทดสอบการผลิต อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) จะถูกใช้เพื่อลดเวลาการทดสอบ โดยการทำให้กระบวนการทดสอบเป็นอัตโนมัติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เหตุผลที่ต้องการมีการทดสอบ

วงจรรวม (Integrated Circuit: IC) ต้องผ่านการทดสอบต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบเบื้องต้น จนถึงขั้นตอนการผลิตเต็มรูปแบบ และบทบาทหน้าที่ของการทดสอบ ณ จุดต่างๆ ที่ระบุไว้ในแต่ละ ช่วงเวลาจะสะท้อนให้เห็นความจำเป็นในการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ สาเหตุในการทดสอบ การออกแบบมีดังต่อไปนี้  

      1. ความไม่แน่นอนในการออกแบบ  ต้องทำให้แน่ใจว่าการออกแบบเป็นไปตามข้อกำหนดที่ต้องการ ในระหว่างการพัฒนาการออกแบบเบื้องต้นและก่อนที่จะผลิตอุปกรณ์จะต้องจำลองโมเดล และเมื่อผลิตอุปกรณ์ต้นแบบแล้วจะต้องกำหนดลักษณะของอุปกรณ์ (การดีบักการออกแบบ/การตรวจสอบการทำงาน และการกำหนดข้อกำหนดพารามิเตอร์ (DC และ AC)

      2. การผลิต/การทดสอบการผลิต

เริ่มขึ้นเมื่อการออกแบบได้รับการยอมรับการผลิตแล้ว การทดสอบการผลิตหมายถึง การระบุอุปกรณ์ที่มีข้อบกพร่อง เนื่องจากปัญหาการผลิต จะดำเนินการกับอุปกรณ์ ที่ตรวจสอบแล้วว่าออกแบบได้ถูกต้อง โดยจะทดสอบข้อผิดพลาดร้ายแรง (จุดบกพร่องเฉพาะที่) ข้อผิดพลาดเล็กน้อย (การเปลี่ยนแปลงของกระบวนการ) และอันตรายต่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะดำเนินการโดยอัตโนมัติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากเครื่องจักรสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าคน และยังทำขั้นตอนต่างๆ ซำ้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

      3. กฎระเบียบ

ต้องแสดงให้เห็นว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเฉพาะเช่น EMC/EMI และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

      4. การบำรุงรักษา

เริ่มขึ้นเมื่ออุปกรณ์อยู่ในสถานะใช้งานครั้งสุดท้ายแล้ว จากนั้นจึงดำเนินการงานประจำเช่น ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ที่ถูกต้องและการสอบเทียบวงจรเป็นระยะ

      5. สัญญา ลูกค้าบางรายอาจต้องการให้ทำการทดสอบเฉพาะกับอุปกรณ์เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดเฉพาะของตนเอง

ATE: Automated Test Equipment Systems

การทดสอบการผลิตต้องทดสอบให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และพื้นที่การใช้งานผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ด้วยต้นทุนต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หมายความว่า ต้องใช้อุปกรณ์ที่คุ้มต้นทุน ที่สุดและลดเวลาทดสอบต่ออุปกรณ์ให้เหลือน้อยที่สุด บทบาทของอุปกรณ์ทดสอบที่ใช้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายนี้ โดยทั่วไปโปรแกรมทดสอบ (ซอฟต์แวร์) จะถูกเรียกใช้บนเครื่องทดสอบเพื่อนำขั้นตอนการทดสอบที่จำเป็นไปใช้ เครื่องทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ต้องการทั้งชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อตั้งค่าและ ควบคุมเครื่องทดสอบและการทำงานของโปรแกรมทดสอบ ในระหว่างขั้นตอนทดสอบการผลิต อุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ (ATE) จะถูกใช้เพื่อลดเวลาทดสอบ โดยทำให้กระบวนการทดสอบ เป็นอัตโนมัติมากที่สุด  อุปกรณ์ที่ใช้สามารถจำแนกได้ดังนี้

  • อุปกรณ์ทดสอบเฉพาะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อวัดพารามิเตอร์เฉพาะของอุปกรณ์ อุปกรณ์นี้ออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์เฉพาะหรือชุดอุปกรณ์ขนาดเล็ก
  • เครื่องทดสอบอเนกประสงค์ใช้ทดสอบอุปกรณ์หลากหลายประเภท โดยอุปกรณ์แต่ละชนิดจะมีพารามิเตอร์การทำงานที่แตกต่างกัน เครื่องทดสอบประเภทนี้จะปรับแต่งให้เข้ากับ IC เฉพาะชั่วคราวเพื่อทดสอบ

นอกจากนี้ประเภทอุปกรณ์ที่จะทดสอบจะกำหนดทรัพยากรที่ตัวทดสอบ (Tester) ต้องการ โดยทั่วไป Tester จะถูกแบ่งประเภทดังนี้

ดิจิทัล (Digital) ปรับให้เหมาะสมกับวงจรและระบบดิจิทัลที่มีพินอินพุต/เอาต์พุตดิจิทัลความเร็วสูงจำนวนมาก และความสามารถในรูปแบบสัญญาณอะนาล็อกที่จำกัด

หน่วยความจำ (Memory) ปรับให้เหมาะสมกับการทดสอบอุปกรณ์หน่วยความจำ

อะนาล็อก (Analogue) ปรับให้เหมาะสมกับวงจรอะนาล็อกที่มีพินกระแสและแรงดันไฟฟ้าอินพุต/เอาต์พุตอะนาล็อก ประสิทธิภาพสูง การรับข้อมูลประสิทธิภาพสูงและการรับสัญญาณดิจิทัลที่จำกัด

เครื่องทดสอบสัญญาณผสม (Mixed-Signal Testers) ต้องมีสัญญาณอินพุต/เอาต์พุตดิจิทัลและอะนาล็อกในระดับที่ดี แต่ไม่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพเท่ากับเครื่องทดสอบดิจิทัลหรืออะนาล็อกทำได้

การทดสอบโดยทั่วไปจะมีการทดสอบดังนี้ การทดสอบด้านพลังงาน (Power Consumption AC/DC) การทดสอบสัญญาณ  (Signal Propagation / Response) การทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผล (Processor Performance Test) การทดสอบด้านความเครียด (Endurance) และอื่นๆ

อีกทั้งยังมีข้อพิจารณาหลายประการที่เกี่ยวข้องกับระบบ ATE ซึ่งรวมถึง

  • จำนวน I/O และแหล่งจ่ายไฟที่ DUT (Device under Test) ต้องการและพร้อมใช้งานจากตัวทดสอบ
  • คุณภาพของสัญญาณที่ตัวทดสอบสามารถสร้างได้
  • ความสามารถในการจับและวิเคราะห์ข้อมูล
  • ข้อจำกัดด้านความถี่ในการทำงานเนื่องจากความยาวของสายเคเบิลไปยังหัวทดสอบ
  • เวลาทดสอบต่อ IC
  • ต้นทุน ATE เป็นต้น

Related articles