คู่มือนี้จะแสดงวิธีการคำนวณขนาดแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณแบบง่ายๆ และมีประสิทธิภาพ
ช่วงนี้หลายคนเริ่มหันมาติดแผงโซลาร์เซลล์กันมากขึ้น เพราะช่วยลดค่าไฟได้จริง อีกทั้งเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ทำร้ายโลกอีกด้วย แต่พอเริ่มคิดจะติดตั้ง คำถามที่มักโผล่มาทุกครั้งก็คือ ต้องใช้แผงขนาดเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะกับบ้านเรา? หากติดน้อยไป ไฟก็อาจไม่พอใช้ ต้องเสียค่าไฟเพิ่ม แต่หากติดมากเกินไปก็เสียเงินเกินความจำเป็น ดังนั้นการเลือกขนาดแผง ให้เหมาะกับการใช้งานจริงในแต่ละบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรคิดถึง และไม่ใช่แค่ดูว่าเรามีเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกี่ชิ้นเท่านั้น แต่ยังต้องดูด้วยว่า เราใช้ไฟช่วงเวลาไหนบ้าง บ้านเรารับแดดดีแค่ไหน พื้นที่ที่ติดตั้งแผงมีร่มเงาบังไหม
บทความนี้จะช่วยสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน ทำแบบไหนจึงจะคุ้มค่า พร้อมบอกเคล็ดลับเล็กน้อยสำหรับคนที่กำลังวางแผน จะติดโซลาร์เซลล์ให้ใช้สามารถใช้งานได้จริงและคุ้มค่าในระยะยาว
ก่อนคำนวณว่า ควรติดแผงโซลาร์เซลล์ขนาดไหน สิ่งแรกที่ต้องรู้ คือ บ้านของเราใช้ไฟในแต่ละเดือนเท่าไหร่ เพราะหากติดน้อยเกิน ไฟอาจไม่พอใช้ หากติดมากเกินก็เปลืองเงินโดยใช่เหตุ วิธีง่ายๆ ที่หลายคนมักใช้กันคือ หยิบบิลค่า ไฟมาดูย้อนหลัง โดยสังเกตตรงที่เขียนว่าใช้ไปกี่หน่วยต่อเดือน (หน่วยตรงนี้หมายถึงกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือ kWh) บ้านทั่วไปมักใช้ราวๆ 200–500 หน่วย ขึ้นอยู่กับว่ามีคนอยู่กี่คน ใช้แอร์บ่อยไหม เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นหรือเปล่า ฯลฯ
เช่น ถ้าบ้านคุณใช้ไฟเฉลี่ยเดือนละ 400 หน่วย ก็แปลว่าทั้งวันใช้ไฟราว ๆ 13.3 หน่วย หรือ 13.3 kWh สิ่งนี้แหละคือ ข้อมูลตั้งต้นที่ใช้วางแผนระบบโซลาร์เซลล์ ให้เหมาะกับบ้านเรา นอกจากดูจากบิลแล้ว ลองสังเกตพฤติกรรมในบ้านประกอบด้วย เช่น เปิดแอร์ตลอดทั้งวัน หรือ เปิดเฉพาะตอนกลางคืน เปิดทีวีทั้งวันไหม มีใครชาร์จรถไฟฟ้าหรือเปล่า เพราะ พฤติกรรมการใช้ไฟพวกนี้มีผลกับปริมาณไฟที่ ควรผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์ กล่าวคือ ยิ่งเรารู้พฤติกรรมการใช้ไฟของบ้านตัวเอง มากเท่าไหร่ การวางแผนระบบก็จะยิ่งแม่นและคุ้มมากขึ้นเท่านั้น
แผงโซลาร์เซลล์ หรือที่เรียกกันว่า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเปลี่ยนแสงแดดให้กลายเป็นไฟฟ้าไว้ใช้งานได้ทันที หรือ เก็บใส่แบตเตอรี่ไว้ใช้ตอนที่ต้องการ เบื้องหลังการทำงานของมัน คือเทคโนโลยีชื่อว่า Photovoltaic หรือ PV ที่เมื่อแสงแดดมากระทบเซลล์ในแผง อิเล็กตรอนจะเคลื่อนตัวแล้วเกิดเป็นกระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) โดยตัวเซลล์ ในแผงโซลาร์เซลล์ทำจากวัสดุกึ่งตัวนำอย่างซิลิคอน ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ ที่ตอบสนองต่อแสงได้ดี พอเอาเซลล์หลายอันมาต่อรวมกันก็จะกลายเป็น แผงหรือโมดูลที่ผลิตไฟฟ้าได้มากพอสำหรับใช้งานในบ้านได้จริง
แผงโซลาร์เซลล์ที่นิยมกันตอนนี้มี 3 แบบคือ
เวลาเลือกแผง นอกจากดูชนิดแล้ว ต้องดูกำลังไฟฟ้าสูงสุด (Watt Peak หรือ Wp) ว่าแผงผลิตไฟได้เท่าไหร่ภายใต้แสงที่เหมาะสม กับอีกตัวคือ ประสิทธิภาพ (%) ที่บอกว่าแผงแปลงแสงมาเป็นไฟฟ้าได้ดีแค่ไหน เมื่อเข้าใจภาพรวมแล้ว เวลาเลือกแผงติดบ้านก็จะง่ายขึ้น ไม่ต้องง้อคำแนะนำจากช่างอย่างเดียว เพราะเราก็มีพื้นฐานพอจะตัดสินใจเองได้ว่าอะไรเหมาะกับบ้านเราที่สุด
อยากรู้ว่าบ้านเราควรติดแผงโซลาร์กี่แผง ไม่ต้องเป็นวิศวกรก็สามารถ คิดคำนวนคร่าวๆ ได้เอง เพียงมีข้อมูลพื้นฐานก็ช่วยให้วางแผนการซื้อได้แบบคุ้มค่า ไม่เสียเงินเกินความจำเป็น
การคำนวณขนาดแผงจากการใช้ไฟฟ้าและจำนวนชั่วโมงที่แดดตกถึงเป็น พื้นฐานที่ดี แต่ถ้าอยากให้ระบบโซลาร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและ คุ้มค่าในระยะยาวมีอีกหลายเรื่องที่ควรคำนึงถึงเช่น
การจะเลือกระบบแบบไหนต้องดูจากการใช้งานจริงของบ้านเราว่า อยากประหยัดแค่ไหน ใช้ไฟช่วงเวลาใด หรืออยากมีไฟสำรองด้วยไหม
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไม่ได้มีแค่เรื่องการเลือกอุปกรณ์ที่ดีเท่านั้น การคำนวณขนาดระบบให้เหมาะสมก็เป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน เพราะระบบที่เหมาะกับการใช้ไฟจริงจะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้สูงในระยะยาว และคุ้มค่ากับเงินลงทุนมากที่สุด เราควรเริ่มจากการทำความเข้าใจ พฤติกรรมการใช้ไฟของบ้าน วิเคราะห์พื้นที่และสภาพแวดล้อมสำหรับติดตั้ง ก่อนนำข้อมูลทั้งหมดมาคำนวณหาขนาดแผงที่เหมาะสม พร้อมเผื่อค่าความ สูญเสียที่เกิดขึ้นในระบบ ที่สำคัญอย่าลืมพิจารณาปัจจัยเสริมเช่น ทิศทางแดด พื้นที่ติดตั้ง งบประมาณ รวมถึงประเภทระบบที่ใช้งานด้วย สุดท้ายนี้ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน ลองใช้เครื่องมือคำนวณออนไลน์ หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมก็ได้ เพราะการวางแผนที่รอบคอบตั้งแต่ต้น จะช่วยให้คุณได้ระบบโซลาร์ที่ทั้งประหยัดไฟ ใช้งานได้จริง และคุ้มค่าที่สุด สำหรับบ้านของคุณ