การกวาดความถี่: เข้าใจการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

บทความนี้อธิบายวิธีการที่เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายวัดสัญญาณโดยการกวาดความถี่

การกวาดความถี่: เข้าใจการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือสำคัญในวิศวกรรม RF (คลื่นความถี่วิทยุ) และไมโครเวฟ ทำหน้าที่กำหนดลักษณะเครือข่ายไฟฟ้าด้วยการวัดพารามิเตอร์ การกระเจิง (พารามิเตอร์ S)

ในบทความนี้จะกล่าวถึงหลักการพื้นฐาน ประเภท การทำงาน และการใช้งานเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย โดยเน้นไปที่บทบาทของเครื่องในระบบสื่อสารสมัยใหม่ การอภิปรายจะรวมถึงเทคนิคการตั้งค่า Calibration ข้อผิดพลาดทั่วไป และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือซับซ้อนที่ใช้วัดคุณสมบัติทางไฟฟ้าในส่วน ประกอบความถี่สูงเช่น ตัวกรอง การขยายสัญญาณ สายอากาศ และสายส่ง โดยการวิเคราะห์ว่าอุปกรณ์ตอบสนองต่อความถี่แต่ละประเภทอย่างไร วิศวกรจึงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในระบบสื่อสาร เรดาร์ และเทคโนโลยีไร้สายได้

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายมี 2 ประเภทได้แก่

  1. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสเกลาร์ (SNA) – วัดการตอบสนองเฉพาะขนาด
  2. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเวกเตอร์ (VNA) – วัดทั้งขนาดและเฟส โดยให้พารามิเตอร์ S ที่ซับซ้อน

หลักการพื้นฐานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

พารามิเตอร์ S (พารามิเตอร์การกระเจิง)

พารามิเตอร์ S อธิบายการแพร่กระจายพลังงาน RF ผ่านเครือข่าย สำหรับเครือข่าย 2 PORT

 S11: ค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อนอินพุต (การสูญเสียการส่งกลับ)

 S21: อัตราขยายหรือค่าเกนการส่งไปข้างหน้า

 S12: อัตราขยายหรือค่าเกนการส่งย้อนกลับ

 S22: ค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อนเอาต์พุต

พารามิเตอร์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความถี่และแสดงเป็นจำนวนตัวเลขเชิงซ้อน (ขนาดและเฟส)

ลักษณะสถาปัตยกรรมเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

VNA ทั่วไปประกอบไปด้วย

  1. แหล่งกำเนิดสัญญาณ กวาดสัญญาณข้ามช่วงความถี่
  2. ชุดทดสอบ ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ที่ทดสอบ (DUT)
  3. ตัวรับหรือภาครับ วัดคลื่นที่ตกกระทบ คลื่นที่สะท้อน และคลื่นที่ส่งผ่าน
  4. โปรเซสเซอร์ คำนวณพารามิเตอร์ S และแสดงผลลัพธ์

ประเภทเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

1. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสเกลาร์ (SNA)

  • วัดเฉพาะขนาดสัญญาณเท่านั้น (ไม่มีข้อมูลเฟส)
  • ใช้สำหรับวัด insertion loss และ return loss พื้นฐาน
  • ราคาถูกแต่มีข้อจำกัดในการใช้งานขั้นสูง

2. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเวกเตอร์ 2 เครื่อง (VNA)

  • วัดทั้งขนาดและเฟส
  • ให้ลักษณะเฉพาะพารามิเตอร์ S อย่างสมบูรณ์
  • จำเป็นสำหรับการจับคู่ค่าอิมพีแดนซ์และการออกแบบตัวกรอง

3. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสัญญาณขนาดใหญ่ (LSNA)

  • ใช้สำหรับระบุลักษณะอุปกรณ์ที่ไม่เป็นเชิงเส้นเช่น เครื่องขยายเสียง เป็นต้น
  • วัดความเพี้ยนฮาร์มอนิกและผลกระทบของการบีบอัด (Compression Effect)

หลักการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

โหมดการกวาดความถี่ Frequency Sweep Modes

  • การกวาดเชิงเส้นที่ชั้นความถี่เท่ากัน เช่น ความถี่ 1 GHz ถึง 2 GHz ในความถี่ 100 MHz
  • การกวาดลอการิทึม แบบเลขชี้กำลัง มีประโยชน์สำหรับการวัดแบนด์กว้าง
  • การกวาดแบบแบ่งส่วน ช่วงความถี่ที่กำหนดเองด้วยขนาดขั้นตอนที่แตกต่างกัน

เทคนิคการตั้งค่า Calibration

การตั้งค่า Calibration จะขจัดข้อผิดพลาดเชิงระบบโดยใช้มาตรฐานที่ทราบกันดี คือ

  • SOLT (Short-Open-Load-Thru) ใช้ในการวัดแบบโคแอกเซียล
  • Thru-Reflect-Line (TRL) ใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่โคแอกเซียล
  • การ calibration แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Cal) โมดูลการcalibrateอัตโนมัติ

ข้อผิดพลาดในการวัดที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วไป

  • ข้อผิดพลาดเชิงระบบที่เกิดขึ้นซ้ำได้ เช่น การจับคู่ผิดพลาด
  • ข้อผิดพลาดแบบสุ่ม สัญญาณรบกวนและการดริฟท์
  • ข้อผิดพลาดการดริฟท์ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ส่งผลต่อเสถียรภาพ

การใช้งานเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

  1. การทดสอบส่วนประกอบ RF และไมโครเวฟได้แก่ ตัวกรองวัดพาสแบนด์ สต็อปแบนด์ และค่า insertion loss หรือตัวขยายสัญญาณที่มี การวิเคราะห์ค่าเกน  ค่า return loss และความเสถียร รวมถึงการนำไปใช้กับสายอากาศ ที่วิเคราะห์ค่า VSWR (อัตราส่วนคลื่นนิ่งแรงดันไฟ) และประสิทธิภาพการแผ่คลื่น
  2. ระบบสื่อสารไร้สาย
    - เครือข่าย 5G การสร้างบีมและการกำหนดลักษณะของเสาอากาศ MIMO
    - การสื่อสารผ่านดาวเทียม การทดสอบทรานสปอนเดอร์และส่วนประกอบท่อนำคลื่น
  3. วงจรดิจิทัลความเร็วสูง
    - วงจร PCB การจับคู่ค่าอิมพีแดนซ์และความสมบูรณ์ของสัญญาณ
    - อินเตอร์คอนเนคต: การวิเคราะห์พารามิเตอร์ S สำหรับระบบที่มีอัตราส่งถ่ายข้อมูลสูง

ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

  • VNA แบบพกพาและแบบ USB ที่มีขนาดกะทัดรัด ต้นทุนต่ำสำหรับการวัดในพื้นที่ต่างๆให้สะดวกขึ้น
  • การวัดแบบ Nonlinear และแบบพัลส์ สำหรับ การทดสอบเครื่องขยายเสียงโดยเครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสัญญาณขนาด ใหญ่  (Large-signal network analyzers:LSNAs)
  • การบูรณาการซอฟต์แวร์สร้างโมเดลจำลอง(Simulation)

สรุป

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในวิศวกรรม RF และไมโครเวฟ ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ผ่านการวิเคราะห์พารามิเตอร์ S ตั้งแต่การวัดสเกลาร์พื้นฐานไปจนถึงการกำหนดลักษณะตาม เวกเตอร์ขั้นสูง เครื่องมือนี้ช่วยให้ปรับแต่งระบบการสื่อสาร เรดาร์ และวงจรดิจิทัลความเร็วสูงได้อย่างแม่นยำ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายก็จะพัฒนาด้านความแม่นยำ ความสามารถในการพกพา และการบูรณาการกับแพลตฟอร์มจำลองหรือโมเดลต่างๆ ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในอนาคต

การกวาดความถี่: เข้าใจการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

บทความนี้อธิบายวิธีการที่เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายวัดสัญญาณโดยการกวาดความถี่

นักเขียนบทความ
by 
นักเขียนบทความ
การกวาดความถี่: เข้าใจการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

การกวาดความถี่: เข้าใจการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

บทความนี้อธิบายวิธีการที่เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายวัดสัญญาณโดยการกวาดความถี่

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือสำคัญในวิศวกรรม RF (คลื่นความถี่วิทยุ) และไมโครเวฟ ทำหน้าที่กำหนดลักษณะเครือข่ายไฟฟ้าด้วยการวัดพารามิเตอร์ การกระเจิง (พารามิเตอร์ S)

ในบทความนี้จะกล่าวถึงหลักการพื้นฐาน ประเภท การทำงาน และการใช้งานเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย โดยเน้นไปที่บทบาทของเครื่องในระบบสื่อสารสมัยใหม่ การอภิปรายจะรวมถึงเทคนิคการตั้งค่า Calibration ข้อผิดพลาดทั่วไป และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือซับซ้อนที่ใช้วัดคุณสมบัติทางไฟฟ้าในส่วน ประกอบความถี่สูงเช่น ตัวกรอง การขยายสัญญาณ สายอากาศ และสายส่ง โดยการวิเคราะห์ว่าอุปกรณ์ตอบสนองต่อความถี่แต่ละประเภทอย่างไร วิศวกรจึงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในระบบสื่อสาร เรดาร์ และเทคโนโลยีไร้สายได้

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายมี 2 ประเภทได้แก่

  1. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสเกลาร์ (SNA) – วัดการตอบสนองเฉพาะขนาด
  2. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเวกเตอร์ (VNA) – วัดทั้งขนาดและเฟส โดยให้พารามิเตอร์ S ที่ซับซ้อน

หลักการพื้นฐานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

พารามิเตอร์ S (พารามิเตอร์การกระเจิง)

พารามิเตอร์ S อธิบายการแพร่กระจายพลังงาน RF ผ่านเครือข่าย สำหรับเครือข่าย 2 PORT

 S11: ค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อนอินพุต (การสูญเสียการส่งกลับ)

 S21: อัตราขยายหรือค่าเกนการส่งไปข้างหน้า

 S12: อัตราขยายหรือค่าเกนการส่งย้อนกลับ

 S22: ค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อนเอาต์พุต

พารามิเตอร์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความถี่และแสดงเป็นจำนวนตัวเลขเชิงซ้อน (ขนาดและเฟส)

ลักษณะสถาปัตยกรรมเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

VNA ทั่วไปประกอบไปด้วย

  1. แหล่งกำเนิดสัญญาณ กวาดสัญญาณข้ามช่วงความถี่
  2. ชุดทดสอบ ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ที่ทดสอบ (DUT)
  3. ตัวรับหรือภาครับ วัดคลื่นที่ตกกระทบ คลื่นที่สะท้อน และคลื่นที่ส่งผ่าน
  4. โปรเซสเซอร์ คำนวณพารามิเตอร์ S และแสดงผลลัพธ์

ประเภทเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

1. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสเกลาร์ (SNA)

  • วัดเฉพาะขนาดสัญญาณเท่านั้น (ไม่มีข้อมูลเฟส)
  • ใช้สำหรับวัด insertion loss และ return loss พื้นฐาน
  • ราคาถูกแต่มีข้อจำกัดในการใช้งานขั้นสูง

2. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเวกเตอร์ 2 เครื่อง (VNA)

  • วัดทั้งขนาดและเฟส
  • ให้ลักษณะเฉพาะพารามิเตอร์ S อย่างสมบูรณ์
  • จำเป็นสำหรับการจับคู่ค่าอิมพีแดนซ์และการออกแบบตัวกรอง

3. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสัญญาณขนาดใหญ่ (LSNA)

  • ใช้สำหรับระบุลักษณะอุปกรณ์ที่ไม่เป็นเชิงเส้นเช่น เครื่องขยายเสียง เป็นต้น
  • วัดความเพี้ยนฮาร์มอนิกและผลกระทบของการบีบอัด (Compression Effect)

หลักการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

โหมดการกวาดความถี่ Frequency Sweep Modes

  • การกวาดเชิงเส้นที่ชั้นความถี่เท่ากัน เช่น ความถี่ 1 GHz ถึง 2 GHz ในความถี่ 100 MHz
  • การกวาดลอการิทึม แบบเลขชี้กำลัง มีประโยชน์สำหรับการวัดแบนด์กว้าง
  • การกวาดแบบแบ่งส่วน ช่วงความถี่ที่กำหนดเองด้วยขนาดขั้นตอนที่แตกต่างกัน

เทคนิคการตั้งค่า Calibration

การตั้งค่า Calibration จะขจัดข้อผิดพลาดเชิงระบบโดยใช้มาตรฐานที่ทราบกันดี คือ

  • SOLT (Short-Open-Load-Thru) ใช้ในการวัดแบบโคแอกเซียล
  • Thru-Reflect-Line (TRL) ใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่โคแอกเซียล
  • การ calibration แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Cal) โมดูลการcalibrateอัตโนมัติ

ข้อผิดพลาดในการวัดที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วไป

  • ข้อผิดพลาดเชิงระบบที่เกิดขึ้นซ้ำได้ เช่น การจับคู่ผิดพลาด
  • ข้อผิดพลาดแบบสุ่ม สัญญาณรบกวนและการดริฟท์
  • ข้อผิดพลาดการดริฟท์ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ส่งผลต่อเสถียรภาพ

การใช้งานเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

  1. การทดสอบส่วนประกอบ RF และไมโครเวฟได้แก่ ตัวกรองวัดพาสแบนด์ สต็อปแบนด์ และค่า insertion loss หรือตัวขยายสัญญาณที่มี การวิเคราะห์ค่าเกน  ค่า return loss และความเสถียร รวมถึงการนำไปใช้กับสายอากาศ ที่วิเคราะห์ค่า VSWR (อัตราส่วนคลื่นนิ่งแรงดันไฟ) และประสิทธิภาพการแผ่คลื่น
  2. ระบบสื่อสารไร้สาย
    - เครือข่าย 5G การสร้างบีมและการกำหนดลักษณะของเสาอากาศ MIMO
    - การสื่อสารผ่านดาวเทียม การทดสอบทรานสปอนเดอร์และส่วนประกอบท่อนำคลื่น
  3. วงจรดิจิทัลความเร็วสูง
    - วงจร PCB การจับคู่ค่าอิมพีแดนซ์และความสมบูรณ์ของสัญญาณ
    - อินเตอร์คอนเนคต: การวิเคราะห์พารามิเตอร์ S สำหรับระบบที่มีอัตราส่งถ่ายข้อมูลสูง

ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

  • VNA แบบพกพาและแบบ USB ที่มีขนาดกะทัดรัด ต้นทุนต่ำสำหรับการวัดในพื้นที่ต่างๆให้สะดวกขึ้น
  • การวัดแบบ Nonlinear และแบบพัลส์ สำหรับ การทดสอบเครื่องขยายเสียงโดยเครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสัญญาณขนาด ใหญ่  (Large-signal network analyzers:LSNAs)
  • การบูรณาการซอฟต์แวร์สร้างโมเดลจำลอง(Simulation)

สรุป

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในวิศวกรรม RF และไมโครเวฟ ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ผ่านการวิเคราะห์พารามิเตอร์ S ตั้งแต่การวัดสเกลาร์พื้นฐานไปจนถึงการกำหนดลักษณะตาม เวกเตอร์ขั้นสูง เครื่องมือนี้ช่วยให้ปรับแต่งระบบการสื่อสาร เรดาร์ และวงจรดิจิทัลความเร็วสูงได้อย่างแม่นยำ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายก็จะพัฒนาด้านความแม่นยำ ความสามารถในการพกพา และการบูรณาการกับแพลตฟอร์มจำลองหรือโมเดลต่างๆ ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในอนาคต

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique. Duis cursus, mi quis viverra ornare, eros dolor interdum nulla, ut commodo diam libero vitae erat. Aenean faucibus nibh et justo cursus id rutrum lorem imperdiet. Nunc ut sem vitae risus tristique posuere.

การกวาดความถี่: เข้าใจการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

การกวาดความถี่: เข้าใจการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

บทความนี้อธิบายวิธีการที่เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายวัดสัญญาณโดยการกวาดความถี่

Lorem ipsum dolor amet consectetur adipiscing elit tortor massa arcu non.

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือสำคัญในวิศวกรรม RF (คลื่นความถี่วิทยุ) และไมโครเวฟ ทำหน้าที่กำหนดลักษณะเครือข่ายไฟฟ้าด้วยการวัดพารามิเตอร์ การกระเจิง (พารามิเตอร์ S)

ในบทความนี้จะกล่าวถึงหลักการพื้นฐาน ประเภท การทำงาน และการใช้งานเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย โดยเน้นไปที่บทบาทของเครื่องในระบบสื่อสารสมัยใหม่ การอภิปรายจะรวมถึงเทคนิคการตั้งค่า Calibration ข้อผิดพลาดทั่วไป และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือซับซ้อนที่ใช้วัดคุณสมบัติทางไฟฟ้าในส่วน ประกอบความถี่สูงเช่น ตัวกรอง การขยายสัญญาณ สายอากาศ และสายส่ง โดยการวิเคราะห์ว่าอุปกรณ์ตอบสนองต่อความถี่แต่ละประเภทอย่างไร วิศวกรจึงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในระบบสื่อสาร เรดาร์ และเทคโนโลยีไร้สายได้

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายมี 2 ประเภทได้แก่

  1. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสเกลาร์ (SNA) – วัดการตอบสนองเฉพาะขนาด
  2. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเวกเตอร์ (VNA) – วัดทั้งขนาดและเฟส โดยให้พารามิเตอร์ S ที่ซับซ้อน

หลักการพื้นฐานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

พารามิเตอร์ S (พารามิเตอร์การกระเจิง)

พารามิเตอร์ S อธิบายการแพร่กระจายพลังงาน RF ผ่านเครือข่าย สำหรับเครือข่าย 2 PORT

 S11: ค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อนอินพุต (การสูญเสียการส่งกลับ)

 S21: อัตราขยายหรือค่าเกนการส่งไปข้างหน้า

 S12: อัตราขยายหรือค่าเกนการส่งย้อนกลับ

 S22: ค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อนเอาต์พุต

พารามิเตอร์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความถี่และแสดงเป็นจำนวนตัวเลขเชิงซ้อน (ขนาดและเฟส)

ลักษณะสถาปัตยกรรมเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

VNA ทั่วไปประกอบไปด้วย

  1. แหล่งกำเนิดสัญญาณ กวาดสัญญาณข้ามช่วงความถี่
  2. ชุดทดสอบ ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ที่ทดสอบ (DUT)
  3. ตัวรับหรือภาครับ วัดคลื่นที่ตกกระทบ คลื่นที่สะท้อน และคลื่นที่ส่งผ่าน
  4. โปรเซสเซอร์ คำนวณพารามิเตอร์ S และแสดงผลลัพธ์

ประเภทเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

1. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสเกลาร์ (SNA)

  • วัดเฉพาะขนาดสัญญาณเท่านั้น (ไม่มีข้อมูลเฟส)
  • ใช้สำหรับวัด insertion loss และ return loss พื้นฐาน
  • ราคาถูกแต่มีข้อจำกัดในการใช้งานขั้นสูง

2. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเวกเตอร์ 2 เครื่อง (VNA)

  • วัดทั้งขนาดและเฟส
  • ให้ลักษณะเฉพาะพารามิเตอร์ S อย่างสมบูรณ์
  • จำเป็นสำหรับการจับคู่ค่าอิมพีแดนซ์และการออกแบบตัวกรอง

3. เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสัญญาณขนาดใหญ่ (LSNA)

  • ใช้สำหรับระบุลักษณะอุปกรณ์ที่ไม่เป็นเชิงเส้นเช่น เครื่องขยายเสียง เป็นต้น
  • วัดความเพี้ยนฮาร์มอนิกและผลกระทบของการบีบอัด (Compression Effect)

หลักการทำงานของเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

โหมดการกวาดความถี่ Frequency Sweep Modes

  • การกวาดเชิงเส้นที่ชั้นความถี่เท่ากัน เช่น ความถี่ 1 GHz ถึง 2 GHz ในความถี่ 100 MHz
  • การกวาดลอการิทึม แบบเลขชี้กำลัง มีประโยชน์สำหรับการวัดแบนด์กว้าง
  • การกวาดแบบแบ่งส่วน ช่วงความถี่ที่กำหนดเองด้วยขนาดขั้นตอนที่แตกต่างกัน

เทคนิคการตั้งค่า Calibration

การตั้งค่า Calibration จะขจัดข้อผิดพลาดเชิงระบบโดยใช้มาตรฐานที่ทราบกันดี คือ

  • SOLT (Short-Open-Load-Thru) ใช้ในการวัดแบบโคแอกเซียล
  • Thru-Reflect-Line (TRL) ใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่โคแอกเซียล
  • การ calibration แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Cal) โมดูลการcalibrateอัตโนมัติ

ข้อผิดพลาดในการวัดที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วไป

  • ข้อผิดพลาดเชิงระบบที่เกิดขึ้นซ้ำได้ เช่น การจับคู่ผิดพลาด
  • ข้อผิดพลาดแบบสุ่ม สัญญาณรบกวนและการดริฟท์
  • ข้อผิดพลาดการดริฟท์ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ส่งผลต่อเสถียรภาพ

การใช้งานเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

  1. การทดสอบส่วนประกอบ RF และไมโครเวฟได้แก่ ตัวกรองวัดพาสแบนด์ สต็อปแบนด์ และค่า insertion loss หรือตัวขยายสัญญาณที่มี การวิเคราะห์ค่าเกน  ค่า return loss และความเสถียร รวมถึงการนำไปใช้กับสายอากาศ ที่วิเคราะห์ค่า VSWR (อัตราส่วนคลื่นนิ่งแรงดันไฟ) และประสิทธิภาพการแผ่คลื่น
  2. ระบบสื่อสารไร้สาย
    - เครือข่าย 5G การสร้างบีมและการกำหนดลักษณะของเสาอากาศ MIMO
    - การสื่อสารผ่านดาวเทียม การทดสอบทรานสปอนเดอร์และส่วนประกอบท่อนำคลื่น
  3. วงจรดิจิทัลความเร็วสูง
    - วงจร PCB การจับคู่ค่าอิมพีแดนซ์และความสมบูรณ์ของสัญญาณ
    - อินเตอร์คอนเนคต: การวิเคราะห์พารามิเตอร์ S สำหรับระบบที่มีอัตราส่งถ่ายข้อมูลสูง

ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีเครื่องวิเคราะห์เครือข่าย

  • VNA แบบพกพาและแบบ USB ที่มีขนาดกะทัดรัด ต้นทุนต่ำสำหรับการวัดในพื้นที่ต่างๆให้สะดวกขึ้น
  • การวัดแบบ Nonlinear และแบบพัลส์ สำหรับ การทดสอบเครื่องขยายเสียงโดยเครื่องวิเคราะห์เครือข่ายสัญญาณขนาด ใหญ่  (Large-signal network analyzers:LSNAs)
  • การบูรณาการซอฟต์แวร์สร้างโมเดลจำลอง(Simulation)

สรุป

เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในวิศวกรรม RF และไมโครเวฟ ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ผ่านการวิเคราะห์พารามิเตอร์ S ตั้งแต่การวัดสเกลาร์พื้นฐานไปจนถึงการกำหนดลักษณะตาม เวกเตอร์ขั้นสูง เครื่องมือนี้ช่วยให้ปรับแต่งระบบการสื่อสาร เรดาร์ และวงจรดิจิทัลความเร็วสูงได้อย่างแม่นยำ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เครื่องวิเคราะห์เครือข่ายก็จะพัฒนาด้านความแม่นยำ ความสามารถในการพกพา และการบูรณาการกับแพลตฟอร์มจำลองหรือโมเดลต่างๆ ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในอนาคต